ไปต่อหรือพอแค่นี้! สาวรับไม่ได้หลังอาบน้ำกับแฟน แล้วรู้เรื่องนี้!!

     กลายเป็นเรื่องน่าสนใจให้ชาวเน็ตได้ช่วยกันวิเคราะห์ และแสดงความเห็น เมื่อเว็บไซต์ HK01 เผยว่า หญิงสาวรายหนึ่งได้เขียนเล่าประสบการณ์ใน Reddit ว่า หลังจากเธอคบหากับแฟนหนุ่มมาระยะหนึ่ง ก็มีโอกาสได้ลงอ่างอาบน้ำด้วยกัน เธอเห็นว่าเขานำสบู่มาถูที่มือ แล้วใช้มือถูตัวเบา ๆ ไม่ได้ใช้ผ้า หรืออุปกรณ์ช่วยทำความสะอาดร่างกายอื่น ๆ โดยเขาบอกกับเธอว่า "ชอบอาบน้ำด้วยมือ"

     นั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากมายสำหรับหญิงสาว จนกระทั่งเมื่อจะอาบน้ำเสร็จ เธอพบว่า เขาไม่ได้ทำความสะอาดบริเวณก้น เมื่อเธอถามว่าทำไมถึงไม่ล้างมัน คำตอบที่ได้ทำเอาเธอตกใจไม่น้อย เขาบอกด้วยความมั่นใจว่า "ตอนที่แช่ในน้ำ น้ำก็ทำความสะอาดก้นให้แล้ว และผมก็ทำแบบนี้มาตลอด"

     หญิงสาวตกตะลึงในความคิดของแฟนหนุ่ม ซึ่งเธอพยายามทำความเข้าใจเขา คิดว่าพ่อแม่ของเขาอาจจะไม่ได้สอนวิธีการอาบน้ำที่ถูกต้อง เธอจึงแนะนำเขาว่าต้องใช้สบู่ล้างทำความสะอาดบริเวณก้นและขาหนีบด้วย แต่เธอไม่คาดคิดว่า 3 วันต่อมา เมื่อเธอถามแฟนหนุ่มหลังจากอาบน้ำว่า เขาได้ล้างก้นหรือเปล่า แต่เขากลับตอบเธอมาว่า "ไม่ มันน่าขยะแขยงที่จะเอามือไปล้างมัน"

     เรื่องนี้กลายเป็นปัญหาที่กระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในความคิดของเธอ มองว่าเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ขาดสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน อีกทั้งยังไม่ยอมปรับตัวหรือเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เธอลังเลกับความสัมพันธ์ ว่าควรจะเลิกกับเขาดีหรือไหม 

     "ฉันควรเลิกกับแฟนไหม ? มันจะใจร้ายเกินไปหรือเปล่า ถ้าจะเลิกกับเขาด้วยเหตุผลนี้" หญิงสาว กล่าวพร้อมขอความเห็นจากเพื่อน ๆ บนโซเชียล ในเรื่องนี้ ชาวเน็ตเข้าไปคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ "ถ้าเขาอาบน้ำไม่ล้างก้น คิดว่าเวลาอุจจาระเขาจะยอมเช็ดก้นตัวเองไหม", "ผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ยังคิดว่ามันสกปรกเกินไป", "ถ้าแฟนฉันไม่ล้างร่างกายให้ดี ฉันจะไม่มีวันแตะต้องเขาเลย", "ส่วนนั้นต้องอยู่ในกางเกงในทั้งวัน ทั้งอับและชื้น ถ้าไม่ล้างมันก็น่าขยะแขยงจริง ๆ" และ "เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ไม่รู้วิธีทำความสะอาดก้น ทั้งแปลกและน่ารังเกียจ"

     ชาวเน็ตรายหนึ่งให้คำแนะนำว่า "ถ้าสิ่งนี้ทำให้คุณรู้สึกรังเกียจและรับไม่ได้ ก็มีเหตุผลที่จะยุติความสัมพันธ์ แต่ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแฟนในด้านอื่น ๆ ดีหมด ยกเว้นเรื่องนี้เรื่องเดียว และคุณก็ชอบเขามาก คุณน่าจะลองให้เวลาเขาสัก 30 วัน เพื่อคิดทบทวนเรื่องนี้"