&nbsp; &nbsp; &nbsp;เป็นเรื่องสุดช็อกในโลกออนไลน์ในขณะนี้ เมื่อหญิงชาวออสเตรเลียวัย&nbsp;64 ปี ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดท้องซ้ำๆ แพทย์สแกนสมองพบสิ่งผิดปกติ ต้องผ่าตัดเอา "ไส้เดือนฝอย" ออกจากสมอง&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B9%80%E0%B9%86%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%B7.webp"></figure>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า หญิงรายดังกล่าวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม&nbsp;2564&nbsp;เนื่องจากเธอมีอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย ไอแห้ง มีไข้ และเหงื่อออกตอนกลางคืนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ หลังจากติดตามผลมาเป็นเวลาหนึ่งปี&nbsp;&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%B2%E0%B9%89%E0%B9%88%E0%B9%86%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%89.webp"></figure>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;พบว่าเธอเริ่มมีอาการหลงลืมและซึมเศร้า จึงถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลแคนเบอร์รา และผลการตรวจพบว่ามีความผิดปกติในสมอง ทำให้ทีมแพทย์ตัดสินใจทำการผ่าตัดฉุกเฉิน&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%80.webp"></figure> &nbsp; &nbsp; &nbsp;ศัลยแพทย์ระบบประสาทที่รับผิดชอบการผ่าตัด รู้สึกตกใจมากเมื่อเจอแมลงความยาวประมาณ&nbsp;8&nbsp;เซนติเมตร ที่ยังมีชีวิตอยู่ในสมองของคนไข้ จึงรีบติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อให้เข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว&nbsp;&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B9%89%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%B7%E0%B8%9E%E0%B9%80.webp"></figure>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;ซึ่งแม้แต่นักประสาทวิทยาที่มักจะจัดการกับการติดเชื้อในสมอง ก็ยังบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพบแมลงที่มีชีวิตในระหว่างการผ่าตัด&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B9%86%E0%B8%B7%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%B7%E0%B9%80.webp"></figure>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp;ทีมแพทย์ได้ตรวจสอบและพบว่าหนอนที่มีชีวิตในสมองของผู้หญิงคือ "Ophidascaris robertsi"&nbsp;เป็นไส้เดือนฝอย ปรสิตที่มักอาศัยอยู่ในท้องของงูเหลือม และเนื่องจากมันไม่ค่อยอาศัยอยู่ในร่างกายมนุษย์ การค้นพบนี้จึงกลายเป็นกรณีแรก&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B9%86%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%B3%E0%B9%89.webp"></figure>&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; ทั้งนี้ แม้ว่าผู้ป่วยจะไม่ค่อยสัมผัสกับงู แต่เธอก็มักจะเก็บหญ้าป่าหรือผักต่างๆ ไว้ทำอาหาร จึงสงสัยว่าเธอบังเอิญทานพืชผักที่มีมูลงูเหลือมโดยไม่ได้ตั้งใจ&nbsp;&nbsp;&nbsp; &nbsp; &nbsp; ล่าสุดแม้ว่าผ่าตัดกำจัดปรสิตออกจากสมองได้สำเร็จแล้ว แต่ผู้ป่วยยังคงได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตัวอ่อนของปรสิตตัวอื่นหลงเหลืออยู่ในร่างกาย&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B9%86%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B9%88%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%86%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B9%86.webp"></figure>&nbsp;

เป็นเรื่องช็อก และขนลุก หลังแพทย์ผ่าสมองเจอไส้เดือนยาว 8 ซม. เผยสาเหตุเพราะกินสิ่งนี้

 ช็อก! แพทย์ผ่าสมองเจอไส้เดือนยาว 8 ซม. เผยสาเหตุเพราะกินสิ่งนี้ 

<h3>โรคติดเชื้อลิสเทอเรีย สามารถพบได้ใน ดิน ปุ๋ย อาหารสัตว์ และแหล่งน้ำทั่วไปในธรรมชาติ &nbsp;และยังสามารถพบได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์บ้าน นกหลายชนิด หอย ปลา และคนบางคน ก็เป็นรังโรคนี้ได้ โดยจะพบเชื้อนี้อยู่ในอุจจาระของสัตว์ คน</h3>&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%28Listeria%29.webp"></a></figure><h3>&nbsp;</h3><h3>โรคลิสเทอเรีย คืออะไร&nbsp;</h3>โรคเชื้อลิสเทอเรีย คือ การติดเชื้อร้ายแรงที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย แบคทีเรียเหล่านี้พบได้บ่อยที่สุดในเนื้อที่ปรุงไม่สุกและผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการพลาสเจอร์ไรท์ เชื้อลิสเทอเรีย เป็นโรคร้ายแรงระบบาสาธารณสุขเป็นการติดเชื้อที่ไม่ที่ธรรมดา ทุกคนสามารถติดเชื้อได้ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่ค่อยป่วยหนัก ก็สามารถติดได้เช่นกัน&nbsp;สตรีมีครรภ์และทารกในครรภ์มีความเสี่ยงสูง หากติดเชื้อลิสเทอเรียทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด การแท้งบุตร หรือการตายคลอด ทารกแรกเกิดสามารถป่วยหนักได้เนื่องจากผ่านการติดเชื้อจากมารดา ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็มีความเสี่ยงสูง รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น มะเร็ง เอดส์ ผู้ปลูกถ่ายอวัยวะ และผู้สูงอายุ&nbsp;ระยะฟักตัวของโรค 1 – 90 วัน การติดเชื้อชนิดนี้จะเกิดกับประเทศที่เจริญแล้วทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา มีรายงานจาก ซีเอ็นเอ็น กล่าวอ้างว่า ประเทศสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับโรคระบาด&nbsp;ลิสเทอเรีย ที่กำลังระบาดใน 11 รัฐ ซึ่งที่มาอาจเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์นมหลายสิบชนิด โรคลิสเทอเรีย เป็นสาเหตุการเสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 260 คนล้านต่อปี ตามข้อมูลจาก&nbsp;CDC ถึงแม้ว่าจะมีการรรักษาที่เพียงพอ แต่โรคนี้มีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 20 – 30&nbsp;% สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาอ้างอิง&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/Listeria%203.webp"></a></figure><h3>&nbsp;</h3><h3>สาเหตุโรคลิสเทอเรีย</h3>สาเหตุมาจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ Listeria monocytogenes ลิสเทอเรีย พบได้ในดินและน้ำและสามารถเข้าสู่ผักดิบได้จากดินหรือจากปุ๋ย เชื้อลิสเทอเรีย&nbsp;ยังสามารถเข้าไปในเนื้อดิบและนมและอาหารแปรรูป เช่น เดลี่ชีส เนื้อเย็น และฮอทด็อก เป็นต้น&nbsp;เชื้อลิสเทอเรียเป็นเชื้อที่สามารถอยู่ได้ในอุณหภูมิเย็นจัดที่ต่ำได้ถึง 0 องศาเซลเซียส จะเจริญได้ดีในช่วง&nbsp;1- 45 องศาเซลเซียส เชื้อนี้ฆ่าตายด้วยความร้อนตั้งแต่&nbsp;70 องศา เซลเซียสขึ้นไปเป็นเวลานานอย่างน้อย&nbsp;3 - 5 นาทีและด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลายชนิดเช่น&nbsp;Sodium hypochlorite, สารประกอบในกลุ่ม&nbsp;Iodophor compound, และสารประกอบในกลุ่ม Ammonium compound อย่างไรก็ตาม เชื้อนี้มีชีวิตนอกร่างกายคนได้นานมากเมื่ออยู่ในแหล่งรังโรคของเชื้อนี้&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/Listeria%205.webp"></a></figure><h3>&nbsp;</h3><h3>อาการโรคลิสเทอเรีย</h3><ul><li>มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด โดยมีอาการเช่น มีไข้</li><li>ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ</li><li>คลื่นไส้</li><li>อาเจียน</li><li>ท้องร่วง</li><li>ปวดแสบกระเพาะอาหาร</li></ul>** หากแบคทีเรียเข้าสู่ระบบประสาท อาจมีอาการแย่ลง ปวดศีรษะ คอเคล็ด ชัก สูญเสียการทรงตัว และกิดอาการสับสนขึ้นได้&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/Listeria%204.webp"></a></figure><h3>&nbsp;</h3><h3>การวินิจฉัยทางแพทย์</h3><ul><li>การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น ประวัติอาการ ประวัติการบริโภคอาหาร น้ำดื่ม นม และ /หรือบริโภคผลิตภัณฑ์ต่างๆจากนม</li><li>การตรวจร่างกาย</li><li>การตรวจเลือด เช่น ซีบีซี (CBC) เพื่อดูการติดเชื้อแบคทีเรีย</li><li>การเพาะเชื้อ อาจจากสารคัดหลั่งจากแผลในตำแหน่งต่างๆ, จากเลือด, จากน้ำไขสันหลัง และ/หรือจากอุจจาระ และ</li><li>อาจมีการตรวจอื่นๆเพื่อการสืบค้นเพิ่มเติม เช่น การตรวจภาพอวัยวะที่ก่ออาการเช่น เอกซเรย์, อัลตราซาวด์, เอกซเรย์- คอมพิวเตอร์(ซีทีสแกน) และ/หรือเอมอาร์ไอ ทั้งนี้ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยและดุลพินิจของแพทย์</li></ul>&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/Listeria%207.webp"></a></figure><h3>การรักษา</h3><ul><li>ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาล แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วและเห็นผลมากที่สุด</li><li>ทานยาปฏิชีวนะใช้เวลา&nbsp;2 สัปดาห์</li><li>ยาลดไข้เมื่อมีไข้สูง</li><li>ยาแก้ปวดเมื่อ ปวดหัว หรือปวดเมื่อยเนื้อตัว</li><li>การใช้ยาผงเกลือแร่ โออาร์เอส (ORS)&nbsp;เมื่อท้องเสีย</li><li>การให้สารน้ำ/สารอาหารทางหลอดเลือดเมื่อกินหรือดื่มน้ำได้น้อย</li></ul>** คนที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจต้องได้รับการรักษานานขึ้น เนื่องจากอาจมีโรคแทรกซ้อน หรือโรคนี้กลับมาอีกครั้ง&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/Listeria%202.webp"></a></figure><h3>วิธีการป้องกัน</h3><ul><li>แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทั้งหมดของผู้ป่วย (รวมถึงยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์และผลิตภัณฑ์สมุนไพร)</li><li>แจ้งแพทย์ให้ทราบ หากผู้ป่วยยังมีอาการหลังจากทานยาปฏิชีวนะเสร็จ</li><li>ปรุงอาหารจากสัตว์ทั้งหมดรวมทั้งไข่เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกให้สุก</li><li>ล้างผักและผลไม้ทุกชนิดให้สะอาดก่อนรับประทาน</li><li>ล้างมือและอุปกรณ์ทำอาหารด้วยสบู่ร้อน น้ำหลังจากจับต้องอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสัมผัสกับของดิบและเนื้อสำเร็จรูป</li><li>ห้ามหยุดทานยาปฏิชีวนะเอง</li><li>ไม่ควรดื่มนมดิบที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ดื่มนมที่พาสเจอร์ไรส์ ถูกความร้อนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย</li></ul>&nbsp;อย่างไรก็ตามควรระวังหรือป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวดีที่สุด หากมีอาการดังที่กล่าวอ้างไปยังข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์&nbsp;เพื่อตรวจอาการ เช็คดวงรายสัปดาห์ รายวัน เช็คเบอร์มงคล เซียมซีจากสำนักดัง เช็คธูปเลขเด็ด ได้ที่เว็บไซต์ สาธุเก้า ดอทคอม&nbsp;<h3>อ่านเพิ่มเติม</h3><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65e073278ac821d23e22d3fc">1. ปักหมุดสายเที่ยว สถานที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เดือนมีนาคม 2567 ต้อนรับฤดูร้อน</a><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65e053af8ac821d23e22d3fa">2. ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ในช่วงหน้าร้อน ปี2567 เลี่ยง 'ฮีทสโตรก'</a><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65e0140239ee72df71e5f26e">3. ผลไม้วิตามินสูง บำรุงสายตาวัยทำงาน</a>

โรคลิสเทอเรีย เป็นชื่อกลุ่มของแบคทีเรียที่มักพบในดิน น้ำ และสัตว์เลี้ยง รวมถึงสัตว์ป่าบางชนิด เช่น วัว หรือสัตว์ปีก โดยลิสเทอเรียสายพันธุ์โมโนไซโตจิเนส เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดการติดเชื้อผ่านทางอาหาร

มาทำความรู้จักกับ โรคลิสเทอเรีย (Listeria) คืออะไร 

<h3>อากาศร้อนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนไทยมาอย่างยาวนานทั้ง ๆ ที่ประเทศไทยมีฤดูถึง 3 ฤดูด้วยกันแต่ความจริงแล้ว ฤดูร้อนจะครอบคลุมได้ยาวกว่าฤดูอื่น ๆ&nbsp;ถือว่าร้อนเกือบตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้ และปี 2567 นี้อุณภูมิอาจสูงขึ้นกว่าปีก่อน อาจถึง 44.5 องศา ทำให้ร้อนอบอ้าวตลอดทั้งฤดูกาลและสิ้นสุดฤดูร้อนกลาง พ.ค.&nbsp;อาจเสี่ยงเกิดฮีทสโตรกเลยก็ว่าได้</h3>&nbsp;แน่นอนเมื่ออากาศร้อน ส่งผลให้สุขภาพจิตคนไทยทั่วประเทศ ทำให้หงุดหงิด มีอารมณ์แปรปรวน อารมณ์เสียบ่อย หัวร้อนง่าย เกิดผลกระทบต่าง ๆ ตามมา การดูแลผู้สูงอายุในช่วงหน้าร้อน อาจต้องดูแลเป็นพิเศษ และเป็นอีกหนึ่งความดูแลที่ทางบ้านไม่ควรปล่อยปะละเลย อาจส่งผลเสียต่าง ๆ เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตแล้ว วิธีการรับมือหน้าร้อนนั้นมีอะไรบ้างมาดูกันเลย&nbsp;<figure class="image"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/2.webp"></figure><h3>&nbsp;</h3><h3>อาการโรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke)</h3>1.&nbsp;ไม่มีเหงื่อออก&nbsp;แม้จะอยู่ในที่ที่อากาศร้อน2.&nbsp;หน้าแดง&nbsp;ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อย&nbsp;ๆ3.&nbsp;รู้สึกกระหายน้ำมาก4.&nbsp;มีอาการเวียนหัว&nbsp;ปวดศีรษะ&nbsp;คลื่นไส้อาเจียน&nbsp;และหายใจเร็ว5.&nbsp;หน้ามืด&nbsp;ความดันโลหิตต่ำ6.&nbsp;เห็นภาพหลอน&nbsp;รู้สึกมึนงง&nbsp;สับสน&nbsp;<h3>การปฐมพยาบาล ฮีทสโตรก</h3>- หากเริ่มมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบเข้าที่ร่มหรือห้องที่มีความเย็น และดื่มน้ำมากๆ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกเท้าและสะโพกสูง คลายเสื้อผ้าให้หลวม ถอดเสื้อผ้าออกเท่าที่จำเป็น ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตามตัว ซอกคอ รักแร้ และศีรษะ ร่วมกับใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน&nbsp;- หากผู้ป่วยหมดสติ ให้จับนอนตะแคงเพื่อป้องกันโคนลิ้นอุดตันทางเดินหายใจ และหากปฐมพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือโทรแจ้งสายด่วน&nbsp;1669&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2.webp"></a></figure>&nbsp;<h3>วิธีการรับมือหน้าร้อน</h3><h4>1. ดื่มน้ำเปล่า&nbsp;</h4>ควรดื่มน้ำเปล่าให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ&nbsp;8&nbsp;แก้ว และถ้าต้องทำงานในสภาพอากาศที่ร้อน หรือออกกำลังกายในสภาพที่ร้อน&nbsp;โดยเฉพาะหน้าร้อนมีการสูญเสียน้ำจากการที่ร่างกายมีเหงื่อออกมาก จะต้องดื่มน้ำอย่างน้อย&nbsp;2 ลิตรต่อชั่วโมง แม้ว่าจะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม และช่วยป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำซึ่งอาจทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้&nbsp;<h4>2. การป้องกันความร้อน</h4>ในฤดูร้อนนั้น เราควรเลือกสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เนื้อผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดี ใส่แล้วเย็นสบาย และควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีอากาศถ่ายเทได้ง่าย ไม่ไม่หนาจนทำให้รู้สึกอึดอัด ก่อนออกจากบ้านควรสวมแว่นกันแดด ใส่หมสก และทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันร่างกายแสงแดด ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งผวหนัง&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%AD.webp"></a></figure>&nbsp;<h4>3. พักผ่อนให้เพียงพอ</h4>หากไม่มีเครื่องปรับอากาศช่วยคลายร้อน การเข้านอนท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวคือฝันร้ายดีๆ นี่เอง เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้นอนหลับพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ รวมถึงในฤดูร้อนจะมีช่วงกลางวันยาวนานกว่ากลางคืน พระอาทิตย์ขึ้นเร็ว ทำให้ต้องตื่นเช้า การได้งีบหลับในช่วงกลางวันประมาณ 10-15 นาที จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้น หรือช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์อ่อนลง ออกกำลังกายเบา ๆ ด้วยการเดินเล่น 10-15 นาที ก็ช่วยให้ผ่านคลายได้&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2.webp"></a></figure><h4>&nbsp;</h4><h4>4. รับประทานอาหารที่สะอาดและย่อยง่าย</h4>ปกติผู้สูงอายุมักรับประทานอาหารได้น้อยอยู่แล้ว ยิ่งในภาวะอากาศร้อนอบอ้าวยิ่งทำให้รับประทานอาหารได้ลดลง ควรเลือกปรุงอาหารที่ถูกปาก มีไขมันน้อย รับประทานอาหารรสอ่อนๆ จะช่วยให้รู้สึกสบายท้อง รวมถึงอาหารเบาๆ ย่อยง่าย เช่น ผัก ผลไม้ โดยเฉพาะในผักและผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบเยอะ นอกจากจะช่วยให้ความสดชื่นและเพิ่มกากใยแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาท้องผูกได้อีกด้วย นอกจากนี้ อาหารปรุงสุกที่สะอาดจะช่วยป้องกันโรคท้องเสีย หรืออาหารเป็นพิษที่มักมาพร้อมกับหน้าร้อนได้อีกเช่นกัน&nbsp;<h3>สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในหน้าร้อน</h3>หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็นจัด หวานจัด&nbsp; อากาศร้อนอบอ้าว ทำให้หลายๆ คนคิดถึงน้ำอัดลมหวานๆ เย็นๆ น้ำแข็งไสราดด้วยนมข้น ผลไม้หวานจัดแช่เย็น แต่การดื่มน้ำหวานและเย็นมากเกินไปนั้น อาจส่งผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหาร รวมถึงอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนในน้ำแข็ง&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%AC%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%87.webp"></a></figure>หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬากลางแจ้งในช่วงหน้าร้อน&nbsp;กีฬาหลายชนิดทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกสนานเพลิดเพลินจนลืมอุณหภูมิร้อนๆ ไปเลย แต่หารู้ไม่ว่า การตากแดดขณะออกกำลังกายและมีการสูญเสียเหงื่อปริมาณมาก อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้&nbsp;ไม่เล่นน้ำช่วงแดดจัด ฤดูร้อนกับน้ำเป็นของคู่กัน แต่การลงเล่นน้ำในช่วงแดดจัดจะทำให้เกิดอาการแสบร้อน และมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนังได้&nbsp;<figure class="image"><a href="https://www.sathu9.com/"><img src="https://service-cms.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/public/%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%8C.webp"></a></figure>&nbsp;งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในฤดูร้อนจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ง่าย โดยเฉพาะหากดื่มในเวลากลางวันช่วงที่มีอุณหภูมิสูง จะก่อให้เกิดความเสี่ยงให้เกิดอาการช็อก&nbsp;ไม่ควรที่จะเปิดพัดลมจ่อ ให้กับผู้สูงอายุ เพราะจะทำให้มีอากาศหนาวๆ ร้อนๆ ทำให้มีภูมิต้านทานต่อโรคต่ำ และเป็นไข้ได้ง่าย&nbsp;ผู้สูงอายุก็ไม่ควรอาบน้ำเย็นบ่อยๆ และไม่ควรให้ตัวเปียกชื้น เพราะอาจทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายอับชื้นได้ และจะเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค ทำให้ไม่สบายตัวได้&nbsp;อย่างไรก็ตาม ช่วงหน้าร้อนนี้ ต้องหมั่นดูแลสุขภาพทั้งตัวเราเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุควรใส่ใจเป็นพิเศษ จัดสถานที่ให้เหมาะสมหลีกเลี่ยงความอับชื้น เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค&nbsp;นอกจากนี้ต้องดูแลสภาวะอารมณ์ของผู้สูงอายุ โดยการดูแลอย่างใจเย็น หมั่นพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ&nbsp;เช็คดวงรายสัปดาห์ รายวัน เช็คเบอร์มงคล เซียมซีจากสำนักดัง เช็คธูปเลขเด็ด ได้ที่เว็บไซต์ สาธุเก้า ดอทคอม&nbsp;<h3>อ่านเพิ่มเติม</h3><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65e0140239ee72df71e5f26e">1. ผลไม้วิตามินสูง บำรุงสายตาวัยทำงาน</a><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65df233f39ee72df71e5f24d">2. ความเชื่อสายมู เกลือดักทรัพย์ เรียกโชคลาภ ขจัดสิ่งอัปมงคล</a><a href="https://www.sathu9.com/article/detail/65def31b39ee72df71e5f1d1">3. สายมู ขอพรวัดเทวราชกุญชร สมหวังดั่งใจ</a>

เดือนมีนาคมปี 2567 เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ และบางพื้นที่ก็มีความร้อนสูง และร้อนมากกว่าปีก่อน ซึ่งส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างมาก